เงินเดือน 10,000 บาทก็มีบัตรเครดิตได้! 5 วิธีขออนุมัติง่ายที่สุดในปี 2569

0
9

เงินเดือน 10,000 บาทก็มีบัตรเครดิตได้! 5 วิธีขออนุมัติง่ายที่สุดในปี 2569

เกริ่นนำ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบัตรเครดิต ผมเข้าใจดีว่าบัตรเครดิตไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการใช้จ่าย แต่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประวัติเครดิตที่ดี (Credit History) และเป็นเสมือน “เครดิตบูโรฉบับย่อ” ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงสินเชื่อขนาดใหญ่ในอนาคตได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ผู้มีรายได้เริ่มต้นต้องเผชิญคือ “เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำ” ตามปกติแล้ว สถาบันการเงินส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะกำหนดรายได้ขั้นต่ำสำหรับการยื่นขออนุมัติบัตรเครดิตมาตรฐานไว้ที่ 15,000 บาทต่อเดือน (สำหรับคนไทย) ตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดังนั้น การที่ผู้มีรายได้ประจำ 10,000 บาทจะขออนุมัติบัตรเครดิตได้นั้น จึงต้องอาศัย “กลยุทธ์เฉพาะทาง” และการทำความเข้าใจหลักการพิจารณาของธนาคารอย่างลึกซึ้ง

บทความนี้จะเจาะลึก 5 กลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีโอกาสสำเร็จสูงที่สุดในปี พ.ศ. 2569 เพื่อให้ผู้มีรายได้เริ่มต้นสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดด้านรายได้และเริ่มต้นสร้างประวัติทางการเงินที่มั่นคงได้สำเร็จ

กลยุทธ์พิชิตบัตรเครดิตสำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (เงินเดือน 10,000 บาท)

การพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตนั้น ธนาคารจะพิจารณาจาก 3 องค์ประกอบหลัก: ความสามารถในการชำระหนี้ (Affordability), ความมั่นคงของรายได้ (Stability), และประวัติทางการเงิน (Credit History) สำหรับผู้ที่มีรายได้ 10,000 บาทต่อเดือน เราจะต้องเน้นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับธนาคารในสององค์ประกอบแรกอย่างเป็นรูปธรรม

วิธีที่ 1: การใช้ “บัญชีเงินฝากค้ำประกัน” (Secured Credit Card)

นี่คือวิธีที่ “ง่ายที่สุด” และมีโอกาสอนุมัติสูงที่สุด หากคุณมีปัญหาเรื่องรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ หรือไม่มีประวัติเครดิตเลย (First Jobber) บัตรเครดิตแบบค้ำประกันคือคำตอบ

หลักการทำงาน: ผู้ขอจะนำเงินฝากประเภทบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีประจำมาวางค้ำประกันไว้กับธนาคาร โดยวงเงินบัตรเครดิตที่ได้รับอนุมัติมักจะเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้ำประกันไว้เล็กน้อย (เช่น ค้ำประกัน 20,000 บาท ได้วงเงิน 20,000 บาท) เงินค้ำประกันนี้จะถูกอายัดไว้ตลอดอายุการใช้งานบัตร

ข้อดีสำหรับผู้มีเงินเดือน 10,000 บาท:

  • ไม่ต้องผ่านเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำ: ธนาคารพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จากหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นหลัก ไม่ใช่จากสลิปเงินเดือน
  • โอกาสอนุมัติเกือบ 100%: ตราบใดที่คุณไม่มีประวัติเสียในเครดิตบูโร (ติดแบล็กลิสต์) การอนุมัติแทบจะแน่นอน
  • สร้างประวัติเครดิตได้ทันที: คุณสามารถใช้บัตรนี้เพื่อสร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การขออนุมัติบัตรเครดิตแบบไม่มีหลักประกันได้ง่ายขึ้นในอนาคต

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง (เช่น 15,000 – 30,000 บาท) วิธีนี้คือทางลัดที่ดีที่สุดในการเข้าสู่ระบบเครดิตอย่างถูกกฎหมายและมั่นคง

วิธีที่ 2: การพิจารณา “บัตรเสริม” (Supplementary Card)

หากคุณยังไม่พร้อมที่จะใช้เงินเก็บในการค้ำประกัน การขอ “บัตรเสริม” เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ หรือผู้ที่ยังต้องพึ่งพาครอบครัวในบางส่วน

หลักการทำงาน: บัตรเสริมจะออกภายใต้วงเงินและบัญชีของ “บัตรหลัก” (Primary Card) ซึ่งเจ้าของบัตรหลักมักจะเป็นบิดา มารดา หรือคู่สมรสที่มีรายได้สูงกว่าเกณฑ์

ข้อดีสำหรับผู้มีเงินเดือน 10,000 บาท:

  • ไม่ต้องยื่นเอกสารรายได้: ผู้ขออนุมัติบัตรเสริมไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารรายได้ของตนเอง เพราะความรับผิดชอบในการชำระหนี้หลักอยู่ที่เจ้าของบัตรหลัก
  • ได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าบัตรหลัก: คุณสามารถสะสมคะแนนหรือใช้โปรโมชั่นต่างๆ ได้เหมือนบัตรหลัก
  • สร้างวินัยการใช้จ่าย: แม้ว่าประวัติเครดิตจะสะท้อนไปที่เจ้าของบัตรหลักเป็นหลัก แต่การใช้บัตรเสริมอย่างรับผิดชอบจะช่วยฝึกฝนวินัยทางการเงินก่อนที่คุณจะมีบัตรเครดิตของตัวเอง

ข้อควรระวัง: ผู้ใช้บัตรเสริมต้องมีความรับผิดชอบในการใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด เพราะหากเกิดหนี้เสีย จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประวัติเครดิตของเจ้าของบัตรหลัก

วิธีที่ 3: การยื่นขอ “สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีวงเงินหมุนเวียน” แทนบัตรเครดิต

ในบางกรณี สถาบันการเงินอาจมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่ยืดหยุ่นกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อส่วนบุคคล” ที่มีลักษณะเป็นวงเงินหมุนเวียน (Revolving Loan) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บัตรกดเงินสด” (Cash Card) ซึ่งอาจกำหนดรายได้ขั้นต่ำเพียง 8,000 – 12,000 บาท

หลักการทำงาน: แม้ว่าบัตรกดเงินสดจะไม่ใช่บัตรเครดิตโดยตรง (ไม่มีฟังก์ชันการผ่อนชำระสินค้า หรือสิทธิประโยชน์สะสมคะแนน) แต่ก็เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ต้องมีการตรวจสอบเครดิตบูโร และการชำระหนี้ที่ดีก็จะถูกบันทึกในประวัติเครดิตเช่นกัน

ข้อดีสำหรับผู้มีเงินเดือน 10,000 บาท:

  • เกณฑ์รายได้ต่ำกว่า: มีโอกาสอนุมัติสูงกว่าบัตรเครดิตมาตรฐาน
  • สร้างประวัติเครดิต: การชำระคืนตรงเวลาจะช่วยพิสูจน์ความสามารถในการรับผิดชอบหนี้สิน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการขออนุมัติบัตรเครดิตจริงในอนาคต

คำเตือน: อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดสูงกว่าบัตรเครดิตมาก (สูงสุด 25% ต่อปี) ควรใช้เมื่อจำเป็นและชำระคืนเต็มจำนวนทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินไป

วิธีที่ 4: การรวมรายได้เสริมเพื่อแสดง “รายได้รวม” ที่สูงขึ้น

ธนาคารส่วนใหญ่จะพิจารณา “รายได้รวมต่อเดือน” ไม่ใช่แค่เงินเดือนประจำเท่านั้น หากคุณมีรายได้ 10,000 บาท และมีรายได้เสริมจากการทำงานอิสระ (Freelance) หรือการขายของออนไลน์อีก 5,000 บาท คุณจะสามารถยื่นขออนุมัติโดยใช้ “รายได้รวม 15,000 บาท” ซึ่งเข้าเกณฑ์มาตรฐานทันที

สิ่งที่ต้องเตรียม: นี่คือจุดที่ผู้ขอต้องเตรียมเอกสารอย่างรัดกุมที่สุด

  • สลิปเงินเดือน (Pay Slip) หรือหนังสือรับรองเงินเดือน: สำหรับรายได้ประจำ 10,000 บาท
  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Bank Statement): อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อแสดงความสม่ำเสมอของรายได้เสริม
  • เอกสารภาษี (ถ้ามี): เช่น ภ.ง.ด. 90/91 หรือหนังสือหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ การแสดงหลักฐานการเสียภาษีจะเพิ่มความน่าเชื่อถือของรายได้เสริมอย่างมหาศาล

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: การรับเงินรายได้เสริมผ่านบัญชีธนาคารเดียวกันอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 6 เดือนขึ้นไป จะช่วยให้ธนาคารประเมินความมั่นคงของรายได้รวมได้ง่ายขึ้นมาก

วิธีที่ 5: การเลือกสถาบันการเงินที่เปิดกว้างสำหรับกลุ่มรายได้เริ่มต้น (Non-Bank/Co-Branded)

แม้ว่าธนาคารขนาดใหญ่จะมีเกณฑ์ที่ค่อนข้างเคร่งครัด แต่สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) หรือบัตรเครดิตที่ออกร่วมกับห้างสรรพสินค้า (Co-Branded Card) บางรายอาจมีนโยบายการพิจารณาที่ยืดหยุ่นกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีประวัติการใช้บริการที่ดีกับสถาบันนั้นๆ

กลยุทธ์การเลือก:

  • บัตรเครดิตห้างสรรพสินค้า: บางบัตรมีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดลูกค้าประจำของห้างนั้นๆ ทำให้เกณฑ์การอนุมัติอาจต่ำกว่าบัตรเครดิตทั่วไปเล็กน้อย
  • การเป็นลูกค้าชั้นดี: หากคุณเป็นลูกค้าของธนาคารใดธนาคารหนึ่งมานาน มีประวัติการฝากเงินสม่ำเสมอ และไม่มีหนี้เสีย การยื่นขอ บัตรเครดิต กับธนาคารที่คุณมีประวัติที่ดีอยู่แล้ว จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณได้ แม้ว่า เงินเดือน 10,000 บาทจะต่ำกว่าเกณฑ์ก็ตาม

ข้อควรระวัง: การเลือกบัตรเหล่านี้ต้องมั่นใจว่าสิทธิประโยชน์และค่าธรรมเนียมรายปีคุ้มค่ากับการใช้งานของคุณ

การเตรียมความพร้อมด้านเครดิตบูโรและความมั่นคงทางการเงิน

ไม่ว่าคุณจะเลือกกลยุทธ์ใดในการ ขออนุมัติบัตรเครดิต สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้มีรายได้น้อยต้องจัดการคือ “ความสะอาด” ของประวัติเครดิตและภาระหนี้สิน

1. การจัดการภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio – DSR)

ธนาคารไม่ได้มองแค่รายได้ แต่จะมองภาระหนี้ทั้งหมดของคุณด้วย DSR คืออัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ หากคุณมีรายได้ 10,000 บาท ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดว่าหนี้ครัวเรือนรวม (ไม่รวมสินเชื่อบ้าน) ไม่ควรเกิน 40-50% ของรายได้ต่อเดือน

  • ยกตัวอย่าง: หากคุณมีรายได้ 10,000 บาท และมีภาระผ่อนโทรศัพท์มือถือ/ผ่อนมอเตอร์ไซค์ รวมกัน 4,000 บาทต่อเดือน DSR ของคุณคือ 40% (4,000/10,000) ซึ่งถือว่าสูงมาก ธนาคารจะอนุมัติวงเงินใหม่ยากขึ้นมาก
  • คำแนะนำ: ก่อนยื่นขอ บัตรเครดิตสำหรับคนเงินเดือนน้อย ให้พยายามลดภาระหนี้สินที่มีอยู่ให้เหลือน้อยที่สุด หรือชำระปิดบัญชีที่ไม่จำเป็นไปก่อน เพื่อให้ DSR ของคุณอยู่ในระดับที่ปลอดภัย (ต่ำกว่า 30%)

2. ตรวจสอบเครดิตบูโร (National Credit Bureau – NCB)

ก่อนการยื่นขออนุมัติทุกครั้ง ควรตรวจสอบประวัติเครดิตของตนเอง หากคุณมีประวัติการชำระล่าช้าแม้เพียงเล็กน้อย หรือมีบัญชีที่ค้างชำระ (สถานะ 40) โอกาสในการอนุมัติจะลดลงเหลือเกือบศูนย์ การแก้ไขประวัติเครดิตให้เรียบร้อยก่อนจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

3. รักษาความสม่ำเสมอของบัญชีธนาคาร

สำหรับผู้มีเงินเดือน 10,000 บาท การแสดงให้เห็นว่าคุณมีวินัยทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญมาก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเงินเดือนถูกโอนเข้าบัญชีเดิมอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการกดเงินสดออกจนหมดทันทีหลังเงินเดือนเข้า และไม่มีการเด้งเช็คหรือการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ การเดินบัญชีที่สวยงามและมั่นคงเป็นหัวใจสำคัญของการพิจารณาอนุมัติ

บทสรุป

การมีบัตรเครดิตไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้มีรายได้ 10,000 บาทในปี พ.ศ. 2569 แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในกฎเกณฑ์และการวางแผนกลยุทธ์ที่ถูกต้อง หากคุณไม่สามารถเข้าถึงบัตรเครดิตมาตรฐานได้เนื่องจากเกณฑ์รายได้ การใช้กลยุทธ์การค้ำประกัน (วิธีที่ 1) หรือการรวมรายได้เสริม (วิธีที่ 4) ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้คือ บัตรเครดิตคือเครื่องมือทางการเงิน ไม่ใช่แหล่งรายได้เสริม การใช้จ่ายอย่างมีวินัย ชำระเต็มจำนวนและตรงเวลา จะช่วยให้คุณสร้างประวัติเครดิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเปิดประตูสู่โอกาสทางการเงินที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต จงเริ่มต้นอย่างชาญฉลาดและรับผิดชอบ

#บัตรเครดิต #เงินเดือน10000 #ขออนุมัติบัตรเครดิต #บัตรเครดิตสำหรับคนเงินเดือนน้อย #สร้างเครดิตบูโร