เกณฑ์ขั้นต่ำเงินเดือนเท่าไหร่ถึงทำบัตรเครดิตได้ในปี 2569: ฉบับคนรายได้น้อยสมัครผ่านชัวร์
เกริ่นนำ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบัตรเครดิตในประเทศไทย ผมเข้าใจดีว่าคำถามที่ว่า “เงินเดือนเท่าไหร่ถึงทำบัตรเครดิตได้?” เป็นหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนวัยทำงานที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างฐานะ หรือผู้ที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานที่ธนาคารมักโฆษณาไว้ การเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพอย่างบัตรเครดิตนั้น ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้จ่าย แต่ยังเป็นก้าวแรกของการสร้างประวัติเครดิตที่ดี ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขอสินเชื่อขนาดใหญ่ในอนาคต เช่น สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์
หลายคนอาจเคยได้ยินว่าเกณฑ์ขั้นต่ำในการสมัครบัตรเครดิตทั่วไปในประเทศไทยคือ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นความจริงสำหรับบัตรเครดิตส่วนใหญ่ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงของปี พ.ศ. 2569 ตลาดการเงินมีความยืดหยุ่นและมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานนี้ บทความเชิงลึกนี้จะเจาะลึกถึงกฎเกณฑ์ที่แท้จริงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกลยุทธ์เฉพาะทางที่ผู้มีรายได้น้อยสามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติบัตรเครดิตได้อย่างแน่นอน
ทำความเข้าใจเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำตามกฎหมายและทางปฏิบัติของธนาคาร
การกำหนดเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำในการสมัครบัตรเครดิตนั้นอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการก่อหนี้เกินตัวของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 15,000 บาทที่เราคุ้นเคยนั้น เป็นเพียง ‘เกณฑ์ทั่วไป’ ที่ธนาคารส่วนใหญ่ใช้ในการคัดกรองเบื้องต้นสำหรับบัตรเครดิตประเภทบุคคลธรรมดา แต่ยังมีข้อยกเว้นและปัจจัยอื่น ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญต้องเน้นย้ำ
กฎเกณฑ์พื้นฐาน: ทำไมต้อง 15,000 บาท และข้อยกเว้นที่ควรรู้
สำหรับบุคคลทั่วไปที่เป็นพนักงานประจำ (ลูกจ้าง) เกณฑ์ 15,000 บาทต่อเดือนถูกกำหนดขึ้นเนื่องจากเป็นระดับรายได้ที่เหมาะสมที่สถาบันการเงินเชื่อว่าผู้สมัครจะสามารถรับผิดชอบภาระหนี้ได้ตามกรอบที่ ธปท. กำหนด (ซึ่งส่วนใหญ่คือวงเงินสูงสุด 1.5 เท่าของรายได้ต่อเดือนสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท)
อย่างไรก็ตาม ในปี 2569 ธนาคารหลายแห่งเริ่มออกผลิตภัณฑ์ที่เจาะจงตลาดมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การผ่อนปรนเกณฑ์รายได้สำหรับบัตรบางประเภท:
- บัตรเครดิตร่วม (Co-branded Credit Cards): บัตรที่ออกร่วมกับพันธมิตรเฉพาะกลุ่ม (เช่น ห้างสรรพสินค้า, สายการบินราคาประหยัด, หรือปั๊มน้ำมัน) มักจะมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่ต่ำกว่าบัตรทั่วไป บางผลิตภัณฑ์อาจเริ่มต้นที่ 12,000 บาท หรือ 10,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและผลประโยชน์หลักของบัตรที่จำกัดเฉพาะพันธมิตรนั้น ๆ
- ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ Non-Bank: บริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (Non-Bank) ที่ได้รับอนุญาตให้ออกบัตรเครดิต (ไม่รวมสินเชื่อส่วนบุคคล) อาจมีเกณฑ์ที่ยืดหยุ่นกว่า โดยบางรายอาจพิจารณารายได้รวมต่อปี หรืออาชีพที่มีความมั่นคงเป็นพิเศษ แม้ว่ารายได้ต่อเดือนจะต่ำกว่า 15,000 บาทก็ตาม
ดังนั้น หากรายได้ของคุณอยู่ที่ 10,000 – 14,999 บาท การมุ่งเป้าไปที่บัตรเครดิตร่วมหรือบัตรของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมกว่าการสมัครบัตรหลักของธนาคารขนาดใหญ่
การประเมินความสามารถในการชำระหนี้ (DSR) ที่สำคัญกว่าตัวเลขรายได้
ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ธนาคารใช้ในการอนุมัติบัตรเครดิต ไม่ใช่แค่ตัวเลขเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่คืออัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio – DSR) ซึ่งเป็นการวัดความสามารถในการชำระหนี้ของผู้สมัคร
DSR คืออัตราส่วนของภาระหนี้ที่คุณต้องชำระรายเดือน (รวมหนี้บัตรเครดิต, สินเชื่อรถยนต์, สินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ) เทียบกับรายได้รวมต่อเดือนของคุณ โดยทั่วไป ธนาคารจะมีความระมัดระวังเป็นพิเศษหาก DSR สูงเกินกว่า 50-60%
ตัวอย่างความเข้าใจผิด:
- กรณี A (รายได้สูงแต่ DSR สูง): นาย A เงินเดือน 25,000 บาท แต่มีภาระผ่อนรถ 15,000 บาทต่อเดือน DSR ของเขาคือ 60% โอกาสในการอนุมัติบัตรเครดิตใหม่จะต่ำมาก
- กรณี B (รายได้น้อยแต่ DSR ต่ำ): นางสาว B เงินเดือน 15,000 บาท ไม่มีภาระหนี้อื่นเลย DSR ของเธอคือ 0% ธนาคารจะพิจารณาว่าเธอมีความสามารถในการชำระหนี้สูงมาก โอกาสอนุมัติสูง
ดังนั้น สำหรับผู้มีรายได้น้อย การรักษา DSR ให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สุดในการเพิ่มโอกาสในการอนุมัติบัตรเครดิตในปี 2569
กลยุทธ์การสมัครบัตรเครดิตสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้ประสบความสำเร็จ
หากคุณมีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท หรือเพิ่งเริ่มต้นทำงานและต้องการเครื่องมือทางการเงินเพื่อสร้างเครดิต นี่คือกลยุทธ์เฉพาะทางที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้คนรายได้น้อยสมัครผ่านได้ชัวร์
บัตรเครดิตค้ำประกัน (Secured Credit Card): ทางลัดสำหรับผู้เริ่มต้น
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาในการยื่นสมัครบัตรเครดิตทั่วไปเนื่องจากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ หรือไม่มีประวัติเครดิตมาก่อน บัตรเครดิตค้ำประกัน (หรือที่บางธนาคารเรียกว่าบัตรเครดิตแบบมีเงินฝากค้ำประกัน) คือคำตอบที่ตรงจุดที่สุด
หลักการทำงาน: ผู้สมัครต้องนำเงินฝากออมทรัพย์หรือเงินฝากประจำมาวางค้ำประกันไว้กับธนาคาร โดยทั่วไปวงเงินบัตรเครดิตที่ได้รับจะเท่ากับหรือต่ำกว่าจำนวนเงินค้ำประกันเล็กน้อย (เช่น ค้ำประกัน 20,000 บาท ได้วงเงิน 20,000 บาท)
ข้อดีสำหรับคนรายได้น้อย:
- เกณฑ์รายได้ผ่อนปรน: ธนาคารส่วนใหญ่จะผ่อนปรนเกณฑ์รายได้หรือแทบไม่สนใจเลย เนื่องจากความเสี่ยงเป็นศูนย์ (ธนาคารมีเงินค้ำประกันของคุณอยู่แล้ว)
- สร้างประวัติเครดิต: บัตรเครดิตค้ำประกันทำงานเหมือนบัตรเครดิตปกติ การใช้จ่ายและชำระคืนตรงเวลาจะถูกรายงานไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ซึ่งช่วยให้คุณมีคะแนนเครดิตที่ดีขึ้น เมื่อผ่านไป 1-2 ปี คุณสามารถยื่นขอเปลี่ยนเป็นบัตรเครดิตทั่วไป (Unsecured Card) ได้ง่ายขึ้น
นี่คือทางเลือกที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตให้ได้ในปี 2569 โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเดือนขั้นต่ำ
การสร้างประวัติเครดิตที่ดีก่อนยื่นสมัคร
ธนาคารจะตรวจสอบคะแนนเครดิตของคุณจาก NCB หากคุณไม่เคยมีประวัติการกู้ยืมใด ๆ มาก่อน (เรียกกว่าเป็น ‘Credit Invisible’) ธนาคารจะลังเลที่จะอนุมัติบัตรเครดิตให้คุณ วิธีง่าย ๆ ในการสร้างประวัติเครดิตที่ดีก่อนยื่นสมัครบัตรเครดิตมีดังนี้:
- การใช้สินเชื่อขนาดเล็กอย่างรับผิดชอบ: ลองใช้สินเชื่อที่มีการรายงานไปยัง NCB เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลขนาดเล็กที่มีการผ่อนชำระตรงเวลา หรือการผ่อนสินค้าผ่านผู้ให้บริการที่เชื่อมต่อกับ NCB
- การชำระหนี้อื่น ๆ ตรงเวลา: แม้ว่าหนี้ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟ) จะไม่ถูกรายงานไปยัง NCB โดยตรง แต่การแสดงให้เห็นว่าคุณมีการจัดการการเงินที่ดีและมีวินัยในการชำระเงินในบัญชีธนาคารของคุณ จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ
- ตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเอง: ก่อนยื่นสมัครบัตรเครดิตทุกครั้ง ควรตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตของตนเองเพื่อแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือทำความเข้าใจสถานะหนี้ของตนเอง ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมได้
เอกสารสำคัญที่ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ
สำหรับผู้มีรายได้น้อย การนำเสนอเอกสารที่แสดงความมั่นคงทางการเงินมีความสำคัญมากกว่าผู้ที่มีรายได้สูง เอกสารเหล่านี้สามารถช่วยให้ธนาคารมองเห็นภาพรวมของความสามารถในการชำระหนี้ของคุณได้ชัดเจนขึ้น:
- ใบแจ้งเงินเดือน (Pay Slip) ย้อนหลัง: ควรแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอของรายได้ในช่วง 3-6 เดือนที่ผ่านมา หากคุณได้รับค่าล่วงเวลา (OT) หรือโบนัส ควรเน้นย้ำส่วนนี้เพื่อแสดงรายได้รวมที่สูงขึ้น
- Statement ธนาคาร: ควรแสดงบัญชีที่มีเงินเข้า-ออกสม่ำเสมอ และที่สำคัญที่สุดคือแสดงยอดเงินคงเหลือที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หรือการแสดงให้เห็นว่าไม่มีการใช้จ่ายเกินตัวในช่วง 3-6 เดือนที่ผ่านมา
- หลักฐานรายได้เสริม (ถ้ามี): หากคุณมีรายได้จากงานเสริมหรือการลงทุนอื่น ๆ ควรรวบรวมเอกสารเหล่านี้ (เช่น สัญญาเช่า, หลักฐานการรับเงินปันผล) เพื่อใช้ในการคำนวณรายได้รวม
บทสรุป
ในปี พ.ศ. 2569 เกณฑ์เงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาทสำหรับบัตรเครดิตทั่วไปยังคงเป็นมาตรฐาน แต่ไม่ใช่กำแพงที่ทะลุผ่านไม่ได้สำหรับผู้มีรายได้น้อย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าคุณสามารถทำบัตรเครดิตได้แน่นอน หากคุณเปลี่ยนโฟกัสจากการพยายามเข้าถึงเกณฑ์รายได้ ไปเป็นการแสดงความมั่นคงทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้
กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดคือการใช้ทางเลือกที่ยืดหยุ่น เช่น บัตรเครดิตร่วมที่อาจมีเกณฑ์รายได้ต่ำกว่า หรือใช้ทางลัดที่ปลอดภัยที่สุดอย่าง “บัตรเครดิตค้ำประกัน” ซึ่งเป็นการพิสูจน์วินัยทางการเงินโดยไม่สนใจเกณฑ์เงินเดือนขั้นต่ำ เมื่อคุณสร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดีได้แล้ว การยื่นสมัครบัตรเครดิตทั่วไปในอนาคตจะเป็นเรื่องง่ายดาย การเริ่มต้นสร้างเครดิตตั้งแต่เนิ่น ๆ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการบริหารการเงินในระยะยาว
[#บัตรเครดิต] [#เงินเดือนขั้นต่ำ] [#สมัครบัตรเครดิต] [#บัตรเครดิตค้ำประกัน] [#คนรายได้น้อย]








